วันเสาร์ที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

อีโคไล เชื้อแบคทีเรียมรณะ คร่าชีวิตมนุษย์


แบคทีเรีย อีโคไลคืออะไร?

แบคทีเรียชนิดนี้ มีชื่อเต็ม ๆ ว่า Escherichia coli (เอสเชอริเชีย โคไล) หรือที่เราเรียกกันสั้น ๆ ว่า E. coli(อี.โคไล)เป็นแบคทีเรียที่มีอยู่แล้วในร่างกายมนุษย์และสัตว์ จะพบได้ในลำไส้ใหญ่แบคทีเรียชนิดนี้จะทำให้เกิดอาการท้องเสียบ่อย ๆ อุจจาระเหลวหรือเป็นน้ำแต่จะมีอาการไม่รุนแรง เพราะคนเรามีภูมิต้านทานโรคอยู่บ้างและปกติเราสามารถพบเชื้อดังกล่าวได้ใน อุจจาระอยู่แล้วถึงแม้จะไม่มีอาการอะไร

ทั้งนี้แบคทีเรียอีโคไลนั้นมีอยู่หลายชนิดแต่เชื้อแบคทีเรียอีโคไลที่ระบาด อยู่ในทวีปยุโรปนั้น เป็นเชื้อแบคทีเรียอีโคไล ชนิดโอ104 ผลิตสารพิษชิก้า (STEC) ซึ่งเป็นเชื้อชนิดที่มีความรุนแรงมากและเจริญเติบโตได้ดีในอุณหภูมิ 35-37 องศาเซลเซียส

 

แบคทีเรียอีโคไลแพร่เข้าสู่ร่างกายคนได้อย่างไร?

เชื้ออีโคไลจะเข้าสู่ร่างกายคนได้จากการรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มที่มี เชื้อแบคทีเรียชนิดนี้อยู่ซึ่งส่วนมากจะพบในอาหารที่ปรุงไม่ถูกสุขลักษณะ

เมื่อติดเชื้อแบคทีเรียอีโคไล แล้ว จะมีอาการอย่างไร?

เริ่มแรกผู้ป่วยจะมีอาการท้องร่วงเล็กน้อย จนกระทั่งรุนแรงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆและมีอาการปวดท้อง ถ่ายเหลว อาจจมีเลือดปน มีไข้ อาเจียนถ้าหากไม่หายภายใน 10 วัน ควรไปพบแพทย์เป็นการด่วนไม่เช่นนั้นผู้ป่วยจะเกิดภาวะเม็ดเลือดแดงแตก และไตวาย อาจจะทำให้เสียชีวิตในที่สุดนอกจากนี้ผู้ป่วยไม่ควรรับประทานยาระงับการถ่าย อุจจาระเพราะยาประเภทนี้จะทำให้อาการป่วยรุนแรงขึ้นกว่าเดิม>>
>>

การป้องกันและรักษา

ในปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษาผู้ป่วยที่ได้รับเชื้อแบคทีเรีย อีโคไลแต่ผู้ป่วยสามารถรับประทานยาแก้ปวดท้องได้ในเบื้องต้นและควรหลีก เลี่ยงยาแก้ปวดในกลุ่มสเตอรอยด์ เช่น ยาแอสไพรินเพราะจะยาตัวนี้จะไปทำลายไตของผู้ป่วย

สำหรับวิธีป้องกันเชื้อแบคทีเรียอีโคไล ในเบื้องต้น คือ

1.
รับประทานอาหารที่ปรุงสุก และถูกสุขลักษณะ
2.
ควรเก็บอาหารประเภทเนื้อสัตว์ไว้ในอุณหภูมิต่ำ
3.
สำหรับผักสดควรล้างน้ำให้สะอาด โดยการปล่อยน้ำไหลผ่านผักประมาณ 2 นาที
4.
ในการประกอบอาหารควรปรุงให้สุกในระดับอุณหภูมิ 71 องศาเซลเซียสขึ้นไป
5.
ยึดหลัก กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมืออยู่เสมอ
6.
เมื่อมีอาการท้องเสียขั้นรุนแรง ควรไปพบแพทย์โดยด่วนและอย่ารับประทานยาระงับถ่ายอุจจาระ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น